วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 30, 2552

ห้องน้ำ เยาวราช



ขับรถ จะไปกินก๋วยจั๊บที่เยาวราช 
อยู่ดีๆก็ปวดฉี่ เลยจะไปเข้าบ้านเพื่อนซะหน่อย แต่เพื่อนไม่อยู่บ้าน
"จะทำไงดีวะ" คิดในใจ 
เพราะแถวนั้นมีแต่ห้องน้ำของร้านอาหาร แต่ร้านที่จะกิน มันไม่มี
เลยเดินๆไปเรื่อยๆ หาห้องน้ำ ก็เจอ โลตัส อยู่ในซอบแคบๆ
ขึ้นไปชั้นสอง เสียสามบาทด้วย

เข้าไปก็เจอกับ สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของการดับกลิ่น
คือ มะนาวครึ่งลูก 5-6 อัน ที่อยู่ใน โถฉี่
มันอยู่ในนั้นมานานแค่ไหนไม่มีใครรู้ อย่างเร็วสุดก็คงเช้าวันนี้
เรื่องของกลิ่น ไม่ต้องพูดถึง มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
แถมกลิ่นยังแรงขึ้นอีก อาจจะเพราะ คนทำความสะอาดคิดว่า
มันน่าจะสะอาดแล้ว เพราะใส่ไปตั้ง 5-6 อันแน่ะ
เลยไม่ทำความสะอาดซะเลย ทั้งวัน

ที่มันสะอาดเพราะภาพที่เห็น แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่
ก็ให้ความหมายเดียวกันกับ เครื่องวัดอุณหภูมิที่สุวรรณภูมินั่นแหละ


moderndog



ขับรถกลับบ้าน นั่งฟังเพลง modern dog ที่เป็น live แบบ acoustic
ฟังกี่ครั้ง ก็เพราะ ทั้งอารมณ์ แล้วก็ เสียง จังหวะดนตรี
วงนี้ก็มีมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังมีกันแค่ 3 คนเหมือนเดิมตลอด
ซึ่งที่ขาดไปคือ มือเบส ซึ่งเวลาเล่นสด ก็มักจะไปยืมของวง zeal บ้าง วงอื่นบ้าง

ก็เลยสงสัยว่า ทำไมถึงไม่หามือเบส ซักคนมาเล่นประจำไปเลย
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลำบากวุ่นวาย กับการหาคนมาเล่น

อาจจะเป็นเพราะว่า บางสิ่งที่มันลงตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องการอะไรมาเพิ่มเติม
ถ้าเพิ่มหรือยัดเยียดมันเข้ามา ก็อาจทำให้อะไรๆเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง

เหมือนอย่างเวลาทำงาน เราอยากใส่บางอย่างลงไป 
แต่มันไม่ได้เข้ากันกับตัวงานที่ทำอยู่เลย

ซึ่ง ทางดนตรีแบบ moderndog ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ซะที่ไหน

วันเสาร์, กรกฎาคม 25, 2552

เทคโนโลยี



วันนี้ไปหาหมอตามา ไปวัดสายตา ซึ่งไม่ได้วัดมาถึง 2 ปี

มีเครื่องมือ อุปกรณ์มากมาย ที่ทำให้รู้ว่าสายตาเราสั้น ยาวหรือเอียงแค่ไหน

โดยใช้เวลาแค่ไม่ถึงนาที

เทคโนโลยี ให้ความสะดวกสบาย แก่เรามาก


แต่ผมลองมองกลับกันว่า เพราะเทคโนโลยี รึเปล่า 

ที่ทำให้คนเราเกิดปัญหากับตัวเองมากขึ้น อย่างเช่น เรื่องของสายตา

โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ทำให้เด็กสายตาสั้นเร็วขึ้น และ เพิ่มขึ้น


แล้วสุดท้ายเราก็ต้องใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

เหมือนทุกๆปัญหา เช่นเดิม





วันอังคาร, กรกฎาคม 14, 2552

วันนี้นั่งดูรูปถ่าย เมื่อตอนที่ไปสถานที่ต่างๆ ประเทศต่างๆ
แล้วก็กลับมานั่งคิดว่า ถ้าเราในตอนนี้ไปอยู่ในเวลานั้น
เราน่าจะเจออะไร และ ได้คิดอะไรมากกว่าตัวเราในตอนนั้น
ซึ่งผมชอบความคิดแบบนี้นะ
มันทำให้รู้สึกว่า ความคิดเราไม่ได้หยุดอยู่กับที่
เหมือนกับเวลาเรากลับไปมองงานที่เราทำเมื่อตอนปี 1
แล้วก็ไม่พอใจ คิดว่าตอนนี้ทำได้ดีกว่า
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ที่เราไม่ได้พอใจในงานตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไป
เพื่อนๆก็ลองมองกลับไปดูรูปเก่าๆบ้าง
อาจจะเห็นอะไรที่ แปลกไปกว่าช่วงเวลานั้น

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 09, 2552

ใกล้ ไกล



วันนี้นั่งๆนอนๆอยู่ เอาอะไรไม่รู้ที่มีรูเป็นรูปดาว (รู้สึกว่าจะเป็นหวี) มานั่งมอง
มองไปมองมา มองปกติ ก็เป็นรูปดาวธรรมดา
แต่พอเอาเข้ามาใกล้ๆ มันก็กลายเป็นรูปดาวแบบ มนๆ เบลอๆ
พอมองด้านข้าง แบบเอียงนิดนึง แม่งเป็นเส้นตรง

ก็เลยรู้สึกว่า อื้มมม ก็เหมือนที่เราเรียนอยู่เลยนะ
การมองอะไรหลายๆด้าน ก็ทำให้เห็นอะไรหลายๆอย่าง
จากสิ่งๆเดียวกันนี่แหละ
เจอมุมมองใหม่ๆ เพราะ มองมุมใหม่ๆ

แล้วยังเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เวลาเจอเรื่องแย่ๆ
เพียงแต่เราลองมองดูจากมุมอื่นรึยังหล่ะ?



วันอาทิตย์, กรกฎาคม 05, 2552

ปลอม



วันนี้ผมใส่เสื้อเชิ้ต polo ของปลอม ไปกินข้าวในโรงแรมครับ

โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยสนใจกับคำว่า "ของปลอม" เท่าไหร่
ถ้าคุณภาพมันไม่ได้ต่างกับ "ของจริง" มากนัก
หรือ ดูไม่ออกจนเกินไป เช่น โลโก้ ไนกี้กลับหัว อะไรแบบนั้น

แล้วไม่สนใจตรงไหน นี่เค้าเรียกสนใจแล้วหล่ะ แต่ยังพออนุโลมได้

แล้วอะไรคือจริง และ ปลอม
อย่างบางคน ใส่ของจริงทั้งตัว แต่ยังไง๊ ยังไงก็ดูเหมือนของปลอม
นั่นหมายถึงว่า ไม่ได้อยู่ที่เราแล้วว่าใส่ของจริงหรือปลอม
แต่อยู่ที่ความคิดของคนที่มองเราต่างหาก

เราไม่ได้พอใจที่เราใส่ของจริง แต่เราพอใจที่คนอื่นมองว่าเราใส่ของจริง
(ยกเว้นไว้สำหรับพวกบ้าแบรนด์จริงๆ ที่ใส่ของถูกแล้วคัน)
เราทำไปเพื่อให้คนอื่นรู้สึกดีกับตัวเรา 
แต่มันดีกับเราจิงรึเปล่า
ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น เงิน ความจำเป็น ความต้องการ 

ซึ่งตัวผมเอง ก็มีของหลายชิ้นที่มีราคา แต่ก็เป็นเพราะ สังคมด้วย
เช่น เวลาไปงานต่างๆ สังคมนั้นก็จะมองที่การแต่งตัว
หรือสิ่งที่อยู่ภายนอก ก่อน

เพราะฉะนั้น เราส่วนใหญ่ ก็อยากที่จะทำให้คนอื่น
มองว่าเราดูดี (ในความคิดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน)
บางคนอยากเซอร์ ฮิปฮอป เด๊ป ไฮโซ อีโม อะไรก็ว่ากันไป

แต่เป็นตัวเองก็น่าจะเหมาะสมและดีที่สุด 

ของจริง ไม่มีปลอม

วันเสาร์, กรกฎาคม 04, 2552

จิต



เรื่องของจิต 
จิตเป็นตัวรับสิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบ
อย่างเช่นเวลามีเสียงมากระทบหูเรา ถ้าไม่ได้ใช้จิต เราก็จะทำได้แค่ได้ยิน
แต่ไม่ได้ฟัง
เหมือนที่เราโดนกันบ่อยๆใน class นั่นแหละ !!! 555

เหมือนกับเวลามีคนมาด่าเรา ถ้าเราไม่ได้ยิน หรือว่า ได้ยิน แต่ไม่ได้ฟัง
จิตไม่ได้ไปรับคำด่าเหล่านั้น เราก็จะไม่รู้สึกอะไร
แต่ถ้าจิต ไปรับคำเหล่านั้นเข้ามา ก็จะทำให้เรารู้สึกถึงอารมณ์ต่างๆ
โมโห โกรธ

แต่ถ้าเราฝึกจิตเรา เราก็จะสามารถควบคุมมันได้
ถึงได้ยิน ได้ฟัง แต่ควบคุมจิตให้ไม่โกรธได้
เข้าใจถึง ความเป็นมาเป็นไป ต่างๆ ว่า
ทำไม ถึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา

เราในวัยนี้ ก็อาจจะมีเรื่องบางเรื่อง ที่เคยคิดว่า
เออ ตอนเด็กๆ เราจะไปโกรธคนนั้นทำมัยวะ
พอกลับไปมองดูเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากๆ
แต่ตอนนั้นไม่ไร้สาระนี่
ก็เพราะตอนนั้นเรายังไม่มีสติมากพอที่จะแยกแยะอะไรต่างๆ

เหมือนที่อาจารก็มองว่า พวกเรายังสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้
cd5 ตอนนี้ เราอาจจะยังไม่สามารถคิดได้แบบนั้น
แต่เราก็รู้แล้วว่ามันยังมีทางไปได้อีก
เราเจอสิ่งที่เราไม่รู้แล้ว ก็ต้องหาทางทำให้รู้และเข้าใจให้ได้